กรณีศึกษาที่ 11-2 : ดันกิ้นโดนัท

ดันกิ้นโดนัทเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านอาหาร จึงต้องมีการวางแผนในการจัดซื้อและจัดเก็บวัตถุดิบให้เหมาะสมกับการผลิตสินค้าในแต่ละวัน บริษัทต้องมีระบบตรวจสอบว่าขนมชนิดใดที่ขายดี และจะขายดีหรือไม่ดีในช่วงเวลาใด ซึ่งจะข่วยในด้านการวางแผนการผลิตและกำหนดโปรโมชันได้อย่างเหมาะสม นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องรู้ว่าแต่ละร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่แตกต่างกันนั้นจะต้องส่งสินค้ากระจายไปแต่ละจุดเท่าใดความถี่ในการจัดส่งเป็นอย่างไรจึงจะพอดีกับอายุของสินค้า และความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายด้วย

จากความต้องการดังกล่าวและสภาพแวดล้อมการแข่งขันของตลาดโดนัทที่สูงมากขึ้น บริษัทจึงเปลี่ยนระบบการทำงานแบบเดิมที่มีลักษณะเป็นแบบแมนนวล (Manual) มาใช้ระบบ ERP สำหรับการปรับปรุงระบบหลังร้านโดยระบบ ERP ถูกนำมาช่วยในการบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีจำนวนพอเหมาะกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละร้านซึ่งช่วยในเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีการเหลือค้างสต๊อก ระบบช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเชื่อมโยงและเก็บรวบรวมข้อมุลของสาขาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ฝ่ายการตลาดสามารถรับรู้ข้อมูลการขายของแต่ละร้านในช่วงเวลาต่างๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้สิ้นสุดในแต่ละวัน และนำข้อมูลมาช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์แนวโน้มและวางแผนการบริหารได้อย่างทันท่วงที

คำถาม
1.การนำเอาระบบ ERP มาใช้ช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายได้อย่างไร
  • ตอบ ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการกับวัตถุดิบให้มีจำนวนพอเหมาะกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละสาขา ช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีการเชื่อมโยงและเก็บรวบรวมข้อมูลของแต่ละสาขาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ฝ้ายตลาดสามารถรับข้อมูลขายของแต่สาขาได้

2. ระบบ ERP ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารอย่างไร

  • ตอบ ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารด้านการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์แนวโน้มและวางแผนการบริหารงานได้อย่างทันท่วงที

ไม่มีความคิดเห็น: